วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

Beware the wet paint

Beware the wet paint

หนังสือนี้ มีมา 35 ปี ของ Alan Fletcher บางส่วนของงานสียังไม่แห้ง นี่คือหนังสือที่เกี่ยวกับกระบวนการออกแบบ, แก้ไขความคิดล้าหลัง และวิธีใช้แยกพวกมัน การแสดงนี้ชัดเจนด้วยตัวอย่างที่มีภาพประกอบ, ใจความสำคัญ, ไม่แสดงตัวอย่างในต้นฉบับแต่ภาพเหมือนจริง แต่ละตัวอย่างจะมีคำอธิบายอยู่ด้วยโดย Jeremy Myerson

ตัวอย่าง

The greening of spring

แสดงความรู้สึกสีเขียวสัญญาของเดือนพฤษภาคม การใช้แปรงทาสีบ้านในการทำให้เป็นผืนใหญ่กว้าง ความเบิกบานเขียวชอุ่ม และแสดงความรู้สึกบางสิ่งที่กำลังเริ่มต้นขึ้น

Taurus the bull


นี่คือการออกแบบที่เป็นรูปเป็นร่างจากภาพปฏิทินของ Taurus สำหรับวันเกิดเพื่อน 50 ปี มันเป็นการรวมกันจากกระดาษทราย, เชือกผูกรองเท้า, หนังสัตว์, ผ้าปิดแผล, กระดาษและใยฝ้าย

Making connections



ความไม่ถูกกาลเทศะของการนำมารวมกันของนกที่เป็นเป้า จากห้องแสดงภาพของฝรั่งเศสกับรูปปั้นของคนอังกฤษทั่วไปที่ทำประโยชน์ การรวมกันของถ้อยคำและภาพที่ตกแต่ง

Drewing letters



เป็นการออกแบบโดยใช้ความแตกต่างในการใช้เครื่องมือในการวาด แต่ละเรื่อง การใช้แปรงทาสี, ตัดกระดาษ, การใช้ปากกาสีอ่อน, การใช้ปากกาฝน เป็นต้น โดยนำมารวมกันเป็นประโยค

The five families

ประเภทโลโก้สำหรับ Design Council ตั้งขึ้นจากต้นฉบับโดย Churchill ตามCouncil ของอุตสาหกรรมการออกแบบ นี่คือตัวอย่างของวิธีการออกแบบตัวอักษร มีทั้งการออกแบบที่เป็นการอัดตัวอักษรให้อยู่ตรงกลางเหมือนแซนวิส, การนำมารวมกันของของตัวอักษรและกราฟฟิก รวมทั้งการออกแบบที่เป็นอักษรตัวใหญ่

Beware the wet paint book


Alan Fletcher

Alan Fletcher
Graphic Designer (1931-2006)



Alan Fletcher คือผู้บุกเบิกของอุตสาหกรรมการออกแบบ graphic ในประเทศอังกฤษ เขาเกิดที่เคนยา และได้ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษกับแม่ หลังจากพ่อเสียชีวิต โดยอาศัยอยู่ในย่านตะวันตกของกรุงลอนดอน เขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนประจำในปี1939 และต่อมาก็ได้ตัดสินย้ายมาเรียนที่ Hammersmith School of Art เป็นวิทยาลัยที่ดีเลิศทางด้านศิลปะ และ Central School เขาได้พบกับ Colin Forbes และ Theo Crosby หลังจากเรียนจบที่ Central School เขาได้ทุนไปเรียนต่อที่ Yale University เขาเลือกเรียนสาขา graphic design และเขาก็ได้แต่งงานกับ Paola Biagi แฟนสาวชาวอิตาลีหลังจากแต่งงาน เขาได้มีโอกาสไปพบกับนักออกแบบที่มีชื่อเสียง เช่น Robert Brownjohn และ Tom Geismar ที่นิวยอร์ก และเขาก็ตัดสินใจทำงานอยู่ที่ลอสแองเจลิส เขาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยของนักออกแบบชื่อ Saul Bass อยู่ระยะหนึ่ง เขารักที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา แต่ภรรยาของเขาอยากอยู่ในยุโรปมากกว่า เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับลอนดอนแต่ได้ไปแวะพักอาศัยระยะสั้นๆในอิตาลี เขาจึงตัดสินใจทำงานใน Pirelli design studio เพื่อหาเงิน และต่อมาก็พบว่าอังกฤษกำลังตกอยู่ในยุคมืดของวงการออกแบบ เขาจึงย้ายกลับไปที่อเมริกาเพื่อทำงานร่วมกับ Colin Forbes หลังจากนั้นเขาและ Forbes ได้เป็นเพื่อน กับ Bob Gill ร่วมมือกันทำงาน และหลังจากนั้นเขาก็เป็นผู้ก่อตั้ง Fletcher/Forbes/Gill studio ขึ้นในปี 1960 และ Pentagram ในปี 1972


สตูดิโอที่พวกเขาสร้างขึ้นก็เริ่มมีชื่อเสียง แต่ วงการ graphic design ในลอนดอนก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อมีการเข้ามาของนักออกแบบชื่อดังอาทิ เช่น Gill Bob และ Brooks แต่ในปี 1963 Bob Gill ได้ลาออกจากบริษัทไป แต่ก็ได้ Crosby เข้ามาทำงานแทน Alan Fletcher ก็ได้สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำออกมามากมาย และยังได้แต่งหนังสือที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาและแนวความคิดในการทำงาน เช่น Designed to be open at random,The Art of Looking Sideways,Alan Fletcher’s 2001 book เป็นต้น
ผลงานของ Alan Fletcher
ออกแบบนิตยสาร Cover for Fortune magazine 1958

ออกแบบโฆษณารองเท้าแตะ
Detail ofanadvertisementforPirellislippers1962
ทำงานร่วมกับ Fletcher/Forbes/Gil

ผลงานชิ้นนี้ สร้างมาจากประสบการณ์ การดำรงชีวิตของคนแต่ละคน ความเรียบง่าย
การใช้สี การจัดวางองศ์ประกอบ จึงทำให้ตัวงานเป็นที่เข้าใจของผู้ที่ได้ พบเห็น

ออกแบบใบประกาศ Pirelli
Detail of a Pirelli poster for a double-decker bus, 1961
ผลงานชิ้นนี้ เป็นงานออกแบบที่ใช้ Font มาสร้างงานโฆษณาทำให้เกิดความแปลกใหม่
โดยการทำให้ Font ยาวขึ้น ตัว P คลุมตัวอักษรทุกตัว จึงทำให้ตัวงานเกิดความโดดเด่น
ออกแบบนิตยสาร
Cover for ICI corporate magazine Plastics Today 1965

ออกแบบใบประกาศสำหรับงาน Designer
Poster for the Designers' Saturday London event 1982

ออกแบบใบประกาศสำหรับงาน Portrait แห่งชาติ
Poster for the National Portrait Gallery London
ออกแบบตัวอักษรให้กับ Victoria & Albert
Visual identity of the Victoria & Albert Museum London 1989
ออกแบบประตูรั้วเหล็กภายนอกสตูดิโอของเขาเอง

Sketch by Alan Fletcher for the elongated alphabet motifs on the iron gates outside his West London studio 1992



ออกแบบหนังสือศิลปะแห่งสหรัฐอเมริกา
The American Art Book 1999



ออกแบบหนังสือ The Art of Looking Sideways 2001



Alan เข้าไปร่วมงานใน terrace และนี้ก็เป็นผลงานบางส่วนของสตูดิโอลอนดอนตะวันตก
Alan Fletcher sitting on the terrace of his West London studio 1995






Alan Fletcher
1931 เกิดในเมืองหลวงของเคนยา
1936 เมื่อพ่อเสียชีวิต เขาและแม่ย้ายไปประเทศอังกฤษ
1941 เข้าโรงเรียนประจำที่ Christ’s Hospital boarding school
1949 ย้ายมาเรียนที่ Hammersmith School of Art เป็นวิทยาลัยที่ดีเลิศทางด้านศิลปะ
1953 ศึกษาต่อที่ Royal College of Art
1956 ได้ทุนไปเรียนต่อที่ Yale University’s School of Architecture and Design
1959 เดินทางกลับลอนดอน แต่ได้ไปแวะพักอาศัยระยะสั้นๆในอิตาลี เขาจึงตัดสินใจทำงานใน Pirelli design studio
1960 เป็นผู้ก่อตั้ง Fletcher/Forbes/Gill studio
1961 ออกแบบใบประกาศ Pirelli
1963 Bob Gill ได้ลาออกจากบริษัทไป แต่ก็ได้ Crosby เข้ามาทำงานแทน
1965 ออกแบบนิตยสาร Cover for ICI corporate magazine Plastics Today
1972 ก่อตั้ง Pentagram กับ Crosby Forbes Kenneth Grange Mervyn Kurlansky
1974 John McConnell เข้าร่วมงานกับ Pentagram
1980 ออกแบบธนาคารธุรกิจในประเทศคูเวท
1989 ออกแบบตัวอักษรให้กับ Victoria & Albert
1992 ออกแบบประตูรั้วเหล็กภายนอกสตูดิโอของเขาเอง
1994 กลายเป็นผู้กำกับศิลปะและเป็นที่ปรึกษาให้กับ Phaidon

Alan Fletcher ทำงานทางด้าน graphic designer มานานกว่า 55 ปี และได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2006
ข้อมูลอ้างอิง www.designmuseum.org